ไค ฮาแวร์ตซ์ มีชื่อเต็มว่า ไค ลูคัส ฮาแวร์ตซ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 1999 ที่เมืองอาเคิน ประเทศเยอรมนี ปัจจุบันเล่นในตำแหน่ง false9ให้กับทีมเชลซี ฮาแวร์ตซ์ เติบโตในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ โดยพ่อของเขามีอาชีพตำรวจ และแม่ของเขาเป็นทนายความ ฮาแวร์ตซ์ เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกเมื่อเขามีอายุได้ 4 ขวบ และในปี 2003 เขาได้เข้าร่วมในทีมเยาวชนของอาเลมันนีอา มารีอาดอร์ฟ ซึ่งมีปู่ของเขาเป็นประธานสโมสรอยู่ นอกจากนี้พ่อของเขาก็เคยเป็นนักฟุตบอลอยู่ในสโมสรแห่งนี้อีกด้วย ฮาแวร์ตซ์ เริ่มการฝึกฝนและพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอยู่ที่นี่เป็นเวลา 5 ปี
ในปี 2009 ฮาแวร์ตซ์ ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ อาเลมันนีอา อาเคิน สโมสรฟุตบอลชื่อดังในบ้านเกิดของเขา ในตอนที่เขามีอายุเพียง 10 ขวบ เขาฝึกทักษะการเล่นฟุตบอล และพัฒนาฝีเท้าจนเรียกได้ว่าเขาสามารถทำผลงานได้ดีจนก้าวกระโดดไปไกล จนทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาไปเข้าตาสโมสรดังอย่าง สโมสรเลเวอร์คูเซน ดึงตัวเขาซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียงแค่ 11 ปีเท่านั้น ไปร่วมทีมเยาวชนของสโมสร ในปี 2010
ซึ่งในการอยู่กับทีมเยาวชนของเลเวอร์คูเซนนั้น เขาสามารถฝึกฝีเท้าของเขาให้เก่งกาจมากขึ้น เขาให้เวลาในการเล่นให้กับทีมเยาวชนของเลเวอร์คูเซนอยู่ 6 ปี เขาก็สามารถพัฒนาตัวเองจนสามารถก้าวขึ้นมาติดในทีมชุดใหญ่ ในปี 2016 โดยในเกมแรกเขาลงมาเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับ เบรเมน แต่ในวันนั้น เลเวอร์คูเซน แพ้ไป 1-2 แต่ในเกมนั้น ฮาแวร์ตซ์ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามในศึกบุนเดสลีกา ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 126 วัน
ในปี 2017 ฮาแวร์ตซ์ สามารถทำแอสซิตส์แรกให้กับทีมได้ ด้วยการส่งบอลให้กับ คาริม เบลลาร์บี้ หลังจากนั้น เขาก็มีโอกาสลงสนามในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในชีวิต เนื่องจาก ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ติดโทษแบนไม่สามารถลงสนามได้ และหลังจากนั้นเขาก็มีชื่อในการลงสนามอยู่บ่อยครั้ง และในเกมก่อนจบฤดูกาลนั้น ฮาแวร์ตซ์ ก็สามารถทำประตูแรกให้กับตัวเองได้ในเกมที่ทีมของเขาเสมอกับ โวล์ฟส์บวร์ก 3-3 และทำให้ ฮาแวร์ตซ์ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของสโมสรเลเวอร์คูเซนที่สามารถทำประตูในศึกบุนเดสลีกาได้ เขาพลาดโอกาสในการลงเล่นในเกมที่พบกับแอตเลติโก มาดริด เพราะเขาเลือกที่จะไปสอบในวันนั้น และทางต้นสังกัดของเขาก็ยินยอม และยังให้เขาลาหยุดถึง 3 วันเพื่อเตรียมตัวสอบอีกด้วย ซึ่งการที่ต้นสังกัดของเขายินยอมเขาทุกอย่างเช่นนี้ เป็นการบ่งบอกว่า ฮาแวร์ตซ์ มีความสำคัญกับทีมมาก
ในฤดูกาล 2017-2018 ฮาแวร์ตซ์ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่มีชื่อลงสนามอยู่บ่อยครั้ง และกลายเป็นส่วนสำคัญในทีมได้สำเร็จ และฮาแวร์ตซ์ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยทีมต้นสังกัดของเขาจบอยู่ที่อันดับ 5 ของตารางคะแนน และทำให้ทีมต้นสังกัดของเขากลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้สำเร็จ และหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมด้วยการเข้ามารับหน้าที่ของ ปีเตอร์ บอสซ์ เข้ามารับตำแหน่ง ฮาแวร์ตซ์ ก็ถูกย้ายให้ไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในหน้าที่ใหม่ของเขา ด้วยการทำประตูไปถึง 20 ประตูจากการแข่งขันในทุกรายการ
ในเดือนเมษายน 2018 เขากลายเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในบุนเดสลีกาครบ 50 นัด ในวัย 18 ปี 307 วัน
ในฤดูกาล 2018-2019 ฮาแวร์ตซ์ เป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่มีโอกาสลงสนามครบในทุกนัด และเขายังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะแห่งปีของเยอรมันอีกด้วย
ในฤดูกาล 2019-2020 ฮาแวร์ตซ์ ลงเล่นให้กับทีมต้นสังกัดด้วยความมั่นใจมากขึ้น เขาสามารถวิ่งไปทั่วสนาม และสามารถหาจังหวะในการแย่งบอลจากคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเขายังเป็นนักเตะที่มีส่วนช่วยสร้างโอกาสการทำเกมให้กับทีมได้มากขึ้น ฮาแวร์ตซ์ สามารถทำประตูช่วยทีมเอาชนะ พาเดอร์บอร์น ไปได้ 3-2 และทำให้ฮาแวร์ตซ์ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่สามารถทำประตูในศึกบุนเดสลีกา ได้ถึง 25 ลูก
ในปี 2020 ฮาแวร์ตซ์ ในวัย 21 ปี ตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีมกับ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัว 62 ล้านปอนด์ โดยมีระยะเวลาในสัญญายาวถึง 5 ปี โดยเขาสวมเสื้อหมายเลข 29 ในช่วงแรกของการเข้ามาร่วมทีม ฮาแวร์ตซ์ จะต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ รวมถึงสไตล์การเล่นฟุตบอลในแบบของฟุตบอลอังกฤษ และในช่วงแรก ฮาแวร์ตซ์ ถูกในลงสนามในหลายตำแหน่งเป็นอย่างมาก ทั้งกองหน้าตัวเป้า และกองกลางในแนวรุก แต่หลังจากนั้นเขาก็ต้องพักลงสนามยาวเนื่องจากพบว่าเขาติดเชื้อโควิด 19 และหลังจากกลับมาลงสนามได้ไม่นานเขาก็พบกับอาการบาดเจ็บทำให้ไม่มีโอกาสลงสนาม จนกลายเป็นมีข่าวลือออกมาว่าการซื้อตัวเขามาด้วยราคาขนาดนั้นจะคุ้มค่าหรือไม่
และเมื่อเขากลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ในยุคของ โทมัส ทูเคิ่ล เขาก็ได้ลงสนามในตำแหน่ง false9 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาถนัด ทำให้เขาสามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และด้วยทักษะการเล่นฟุตบอลของเขาทำให้ ฮาแวร์ตซ์ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะคนสำคัญของเชลซี ฮาแวร์ตซ์ เข้ามาร่วมทีมเชลซี ด้วยความหวังของทีมที่จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และเขาก็กลายมาเป็นฮีโร่ของเชลซี ด้วยการช่วยทีมคว้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2020-2021 และแชมป์ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 2021 ฮาแวร์ตซ์ มีความสามารถรอบด้าน มีการจบสกอร์ที่เฉียบคม สามารถเล่นได้ทั้งสองเท้า และยังช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะในนัดสำคัญๆ ได้อย่างต่อเนื่อง จนในตอนนี้ ฮาแวร์ตซ์ กลายมาเป็น เทพแห่ง false9 ไปแล้ว
ผลงานให้ทีมชาติ เขาเคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติเยอรมันในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และสามารถขึ้นมาติดในทีมชุดใหญ่ของทีมชาติเยอรมันได้ในปี 2018 ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 19 ปี ซึ่งในตอนนี้เขาลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของเยอรมันไปแล้ว 10 นัด และสามารถทำประตูไป 2 ประตู