แจ็ค ปีเตอร์ กรีลิช คือชื่อเต็มของ  แจ็ค กรีลิช กองกลางของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีค่าตัวสูงที่สุดในลีกฟุตบอลอังกฤษ เขาเกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 1995 แม่ของเขาเป็นชาวอังกฤษ แต่พ่อของเขาเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ไอร์แลนด์ ทำให้ตัวของเขามีเชื้อสาย ไอร์แลนด์ไปด้วย เขาเกิดในครอบครัวที่มี แอสตัน วิลล่า อยู่ในหัวใจ ซึ่งทำให้เขาเป็นแฟนบอลของ แอสตัน วิลล่า ไปโดยปริยาย กรีลิช มีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเด็ก เหมือนเช่นเด็กผู้ชายทั่วๆไป

ในปี 2001 เมื่อเขามีอายุได้ 6 ขวบ เขาก็ได้เข้ารับการฝึกฝนทักษะด้านฟุตบอลกับอคาเดมี่ของแอสตัน วิลล่า กรีลิช ใช้เวลาที่มีในการฝึกฝนทักษะการเล่นฟุตบอลของเขา และสามารถไต่ระดับเล่นในทีมเยาวชนในแอสตัน วิลล่า มาอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2011 ในตอนนี้เขามีอายุ 16 ปี กรีลิช ถูกดึงตัวขึ้นมามีชื่อเป็นตัวสำรองในทีมชุดใหญ่ ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่แอสตัน วิลล่า พบกับ เชลซี แต่ในเกมนั้นแอสตัน วิลล่า แพ้ไป 2-4

ซึ่งในช่วงที่ กรีลิช เล่นให้กับทีมเยาวชนของแอสตัน วิลล่า นั้น เขาเล่นอยู่ 2 ตำแหน่งสลับกันไปมา คือตำแหน่งกองกลางตัวรุก และตำแหน่งปีก

ในช่วงฤดูกาล 2012-2013 กรีลิช สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี โดยสามารถพาทีมแอสตัน วิลล่า คว้าแชมป์ในรายการ NextGen Series ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีสโมสรดังทั่วยุโรป จำนวน 24 ทีมลงแข่งขัน ถึงแม้เขาจะเป็นนักเตะที่สร้างผลงานให้กับทีมเยาวชน และมีความโดดเด่น มีทักษะในการผ่านบอลที่แม่นยำ แต่ด้วยอายุของเขาที่ตอนนั้นมีอายุเพียงแค่ 19 ปี ทำให้โอกาสในการก้าวขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ของแอสตัน วิลล่านั้นเป็นเรื่องที่ยาก

ในฤดูกาล 2013-2014 แอสตัน วิลล่า ทีมต้นสังกัดของเขา ได้ปล่อยตัว กรีลิช ออกไปหาประสบการณ์กับ นอตต์ เคาน์ตี้  สโมสรในลีกวัน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล โดยในเกมแรกที่เขาลงสนามในนามของ นอตต์ เคาน์ตี้ คือ เกมที่พบ เอ็มเค ดอนส์ และแพ้ไป 1-3 ซึ่งในเกมนี้เขาลงมาเล่นเป็นตัวสำรอง  เขาก็สามารถทำผลงานได้ดี โดยในฤดูกาลนั้นเขาลงเล่น 37 นัด ทำประตูได้ 5 ประตู

ในฤดูกาล 2014-2015 กรีลิช กลับมายังแอสตัน วิลล่า อีกครั้งหลังจากสิ้นสุดสัญญายืมตัว ซึ่งทางแอสตัน วิลล่า ก็มองเห็นแล้วว่า กรีลิช มีความสามารถมากพอที่จะก้าวขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ได้แล้ว ในเดือนพฤษภาคม 2014 เขาถูกเรียกตัวให้มาเล่นในทีมชุดใหญ่ของแอสตัน วิลล่า โดยลงสนามในเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเขาลงไปแทน ไรอัน เบอร์ทรานด์ แต่ผลของเกมนี้ แอสตัน วิลล่า แพ้ไป 0-4

และในปี 2015 กรีลิช ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งในสื่อกีฬา เมื่อมีภาพที่เขานอนหมดสติด้วยความเมาอยู่กลางถนนในเวลากลางวัน พร้อมกับมีซองบุหรี่อยู่รอบตัวของเขา ซึ่งเรียกได้ว่าทำให้สร้างความเสื่อมเสียในภาพพจน์ของตัวเขาเป็นอย่างมาก และในเวลาต่อมา ก็ยังมีภาพที่เขามักจะเมามาย และสังสรรค์จนเกินเหตุออกมาอยู่บ่อยครั้ง และในที่สุดเขาก็โดนลงโทษด้วยการให้ลงไปเล่นในทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ของแอสตัน วิลล่า และทำให้เขากลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ถูกมองข้ามไปในเวลานั้นจากการกระทำของตัวเอง แต่แล้ว กรีลิชก็เอาบทเรียนนี้มาแก้ไขข้อบกพร่องของเขา ทำให้เขาหันมาฝึกซ้อมอย่างหนัก

หลังจากนั้น กรีลิช ก็ได้ไปโชว์ฟอร์มอันโดดเด่น ในรายการ ฮ่องกง ซิตี้ ซอคเกอร์ เซเว่นส์ โดยเขาสามารถยิงไปได้ถึง 6 ประตู ทำให้เขาได้รับรางวัลดาวซัลโวสูงสุดมาครองในรายการนั้น

กรีลิช ก็มีโอกาสสอดแทรกได้ลงสนามให้กับทีมต้นสังกัด อยู่บ้างเป็นระยะ แต่ก็ยังไม่สามารถขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมได้

จนในฤดูกาล 2016-2017 แอสตัน วิลล่า พบกับผลงานอันย่ำแย่ ทำให้ตกชั้นลงไปเล่นในลีกแชมเปียนชิป ซึ่งเป็นเหตุผลให้ทางบอร์ดบริหารต้องพิจารณาปล่อยนักเตะออกจากทีมเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง และด้วยเหตุนี้ทำให้ แจ็ค กรีลิช ได้มีโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอขึ้น และในที่สุดก็ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของแอสตัน วิลล่าได้สำเร็จ

กรีลิช เล่นให้กับแอสตัน วิลล่า ในลีกแชมเปียนชิปอยู่ 3 ฤดูกาล จนมาถึงในฤดูกาล 2019-2020 กรีลิชก็สามารถพาทีมแอสตัน วิลล่า กลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ กรีลิช กลายเป็นกำลังสำคัญที่แอสตัน วิลล่า ขาดไม่ได้ และสามารถสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้เขายังได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมแอสตัน วิลล่าอีกด้วย ซึ่งในตอนนี้มีข่าวออกมาตลอดเวลาว่า ได้มีทีมฟุตบอลอยู่หลายทีมต่างต้องการตัวของเขาไปร่วมทีม  แต่สุดท้ายเขาก็ยังเล่นให้กับแอสตัน วิลล่า จนจบฤดูกาลนั้น

แต่แล้ว ด้วยผลงานของเขาที่โดดเด่นขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นว่า สโมสรแอสตัน วิลล่า ต้นสังกัดในปัจจุบันของเขาจะเล็กไปสำหรับเขาไปเสียแล้ว จนในเดือนมิถุนายน 2021 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีก ก็ยื่นข้อเสนอด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวกรีลิช มาร่วมทีม และเขากลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในลีกฟุตบอลในอังกฤษเลยทีเดียว โดยกรีลิช เซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 6  ปี และสวมเสื้อหมายเลข 10 ให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผลงานในทีมชาติ เนื่องจาก กรีลิชเกิดที่เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ แต่มีเชื้อสายไอริชจากพ่อของเขา ทำให้เขาสามารถเลือกเล่นได้ทั้งทีมชาติอังกฤษและทีมชาติไอร์แลนด์

โดยในระดับเยาวชน เขาเล่นให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ ตั้งแต่ในปี 2011 โดยเล่นให้กับทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี,ไม่เกิน 18 ปี,ไม่เกิน 21 ปี ซึ่งในตอนนั้น ทีมชาติอังกฤษก็เฝ้ามองฟอร์มการเล่นของเขาอยู่เช่นกัน ในปี 2015 กรีลิช ปฏิเสธเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ของไอร์แลนด์ จึงเป็นโอกาสของทีมชาติอังกฤษได้เข้าไปพูดคุยกับเขา และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ในปี 2016 ในชุดอายุไม่เกิน 21 ปี และพาทีมคว้าแชมป์ ตูลง ทัวร์นาเมนต์ 2016 และเป็นการคว้าแชมป์ในรอบ 22 ปีของทีมชาติอังกฤษในรายการนี้อีกด้วย

ในปี 2020 กรีลิช มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และเป็นนักเตะในชุดรองแชมป์ยูโร 2020