การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด
ในเกมนี้ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่สำคัญของทางเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก เนื่องจากหากลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะในเกมนัดนี้ได้ จะแซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแทน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นการชั่วคราว ซึ่งจะทำให้เป็นการกดดันทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีโปรแกรมลงสนามช้ากว่าด้วย โดยในตอนนี้ ลิเวอร์พูล อยู่อันดับสองของตาราง มีทั้งหมด 69 คะแนน จากการลงสนาม 29 นัด ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1 คะแนน โดยสถิติ 9 เกมก่อนหน้านี้ในลีก ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เก็บ 3 แต้ม มาทั้งหมด โดยในเกมก่อนหน้านี้ เอาชนะ ฟอเรสต์ ไป 1-0 ในศึกเอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนเกมในลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล มา 2-0
ส่วนทางฝั่งทีมเยือน วัตฟอร์ด ที่ในตอนนี้กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น ซึ่งในตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 18 ของตารางคะแนน มีคะแนนรวม 22 คะแนน จากการลงสนามทั้งหมด 29 นัด โดยสถิติ 5 เกมหลังสุดในลีก ชนะ 1 นัด แพ้ 3 นัด เสมอ 1 นัด โดยในเกมนัดล่าสุด เอาชนะ เซาแธมป์ตันมา 2-1 โดยในเกมนี้ มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่ คือ รอย ฮอดจ์สัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษและทีมลิเวอร์พูล ที่เข้ามาคุมทีม โดยมีภารกิจสำคัญคือการพาทีมหนีการตกชั้นให้ได้
สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งสองทีมก่อนหน้านี้ 5 นัดหลังสุดในลีก ลิเวอร์พูล ชนะ 5 นัด เสมอ 0 นัด วัตฟอร์ด ชนะ 1 นัด โดยนัดล่าสุดในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วัตฟอร์ด มาได้ถึง 5-0 สรุปสถิติการพบกันของทั้งสองทีม เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะในเกมที่ลิเวอร์พูลเป็นเจ้าบ้าน
ส่วนทางด้านสภาพความพร้อมของทีม
ลิเวอร์พูล ซึ่งยังต้องมีลุ้นอยู่หลายอย่าง และแน่นอนว่าจะไม่มี เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ – อาโนลด์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากเขายังมีอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ส่วนทางด้าน นาบี เกอิต้า กองกลางของลิเวอร์พูล มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ยังต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสภาพความพร้อมอื่นๆ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังต้องรอดูเรื่องสภาพจิตใจและสภาพความพร้อมของร่างกายของตัวนักเตะ เนื่องจากเพิ่งตกรอบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกมา ส่วนทางด้าน ซาดิโอ มาเน่ ก็เช่นกันยังต้องดูความพร้อมของร่างกายอีกครั้งหลังจากเพิ่งจบเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกมา ส่วนทางด้าน หลุยส์ ดิอาซ ,อลีสสัน เบ็คเกอร์,ฟาบินโญ่ ที่ต้องเดินทางกลับมาจากการไปช่วยทีมชาติของตัวเอง มีการยืนยันแล้วว่าไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน พร้อมที่จะลงสนามหาก เจอร์เกน คล็อปป์ ต้องการ และมีสองนักเตะที่หายจากโควิด-19 กลับมาแล้วคือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และเจมส์ มิลเนอร์
ส่วนทางด้าน วัตฟอร์ด ก็จะมีนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บคือ อิสไมลา ซาร์ ส่วนทางด้าน แดนนี่ โรส อยู่ระหว่างการรักษาตัวจาก โควิด-19 ส่วนทางด้าน นิโกล่าส์ เอ็นคูลู และ เจเรมี งาเกีย ยังต้องรอตรวจสอบความพร้อมอีกครั้งหนึ่ง โดยคาดว่าในการลงสนามในนัดนี้ วัตฟอร์ดน่าจะใช้ทีมชุดเดิมที่เอาชนะ เซาแธมป์ตัน มา 2-1 ส่วนทางด้าน โจชัว คิง ที่เพิ่งทำผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับทีมชาตินอร์เวย์ด้วยกันทำแฮตทริค น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนัดนี้ รวมถึง จัว เปโดร ที่จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเช่นกัน
รายชื่อ 11 นักเตะ ที่คาดการณ์ว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล ในเกมนัดนี้คาดว่า เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูล จะเลือกวางมาในระบบ 4-3-3 โดยมี ผู้รักษาประตู อลีสสัน เบ็คเกอร์ กองหลัง – แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ,โจเอล มาติป และ โจ โกเมซ กองกลาง –จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ อัลกันตารา กองหน้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์ตู ฟีร์มีโน่ และ ดิโอโก้ โชต้า
วัตฟอร์ต ภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮอดจ์สัน จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 เช่นกัน โดยมี ผู้รักษาประตู – เบน ฟอสเตอร์ กองหลัง – กิโก เฟเมนิอา , คริสติย็อง คาเซเล่ , ซาเมียร์ และ ฮาสเซน คามารา กองกลาง – มุสซ่า ซิสโซโก้ , แอ็งร็อง ลูซ่า และ ยูราย คาก้า กองหน้า- ฮวนคามิโล เฮอร์นันเดซ , โจชัว คิง และ เอ็มมานูแอล เดนนิส
บทวิเคราะห์จากทางสื่อ ให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วัตฟอร์ด 4-0 เนื่องจากผลงานของลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้ที่เอาชนะมาแล้ว 9 นัดรวมในพรีเมียร์ลีก และในเกมนัดนี้ หากลิเวอร์พูลเอาชนะได้ จะทำให้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง มันทำให้ทางนักเตะ ลิเวอร์พูล ต้องโดนทางด้าน เจอร์เกน คล็อปป์ สั่งการให้ลุยเต็มที่อย่างแน่นอน และในเกมที่ วัตฟอร์ด มาเยือนยังถิ่นลิเวอร์พูล ก็มีสถิติพบกับความพ่ายแพ้อย่างขาดลอย และไม่สามารถทำประตูได้เลย